ขอบคุณอีกครั้งที่ท่านสละเวลาอ่านเรื่องราวของผม จนจบ กระผมไม่อาจทราบได้ว่าเรื่องราวของกระผมจะประทับใจท่าน หรือไม่ ขอบคุณครับ

เงินด่วน*** เว็บไซต์ Siamloaning.com เป็นเพียงเว็บประกาศแจ้งเตือนภัยเงินด่วนและช่วยคุณหาเงินกู้เท่านั้น ไม่มีการเก็บเงินค่าตามเอกสาร! ค่าเดินทาง! ค่าดอกเบี้ย! ค่าธรรมเนียม! หรือให้คุณโอนเงินก่อนแต่อย่างใด โปรดระวังมิจฉาชีพแจ้งว่าเป็นทีมงานของเว็บไซต์เราด้วยนะครับ กรุณาตั้งสติและอย่าให้เบอร์ใครง่ายๆ ถ้าคุณใจไม่แข็งพอ ***

ที่สำคัญที่สุด!! เราไม่พบนายทุนนอกระบบตัวจริงในอินเทอร์เน็ต แม้แต่รายเดียว กว่า 90% ล้วนแล้วแต่เป็นมิจฉาชีพ ถ้ามีนายทุนนอกระบบในอินเทอร์เน็ตที่สามารถปล่อยเงินกู้ได้จริง สยามโลนนิ่งจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทุกท่านทราบโดยทันทีสินเชื่อส่วนบุคคล
เงินกู้ *** หาเงินกู้ไม่ได้ ติดต่อให้เราช่วยได้ที่นี้ *** >>> แอด Lineid : @mpe8992s (มี @ ข้างหน้าด้วย) <<< หรือ >>> คลิกที่นี่เพื่อแอดไลน์ <<< บริการนี้เป็นบริการช่วยหานายทุนให้กับลูกค้า ไม่ใช่เป็นการปล่อยสินเชื่อ และไม่ได้บังคับให้ทำตาม ย้ำอีกครั้งว่าทางเว็บไซต์ไม่ได้เป็นนายทุนปล่อยสินเชื่อด้วยตัวเอง และเราไม่เคยพบนายทุนนอกระบบในอินเทอร์เน็ตที่ปล่อยเงินได้จริง แม้แต่รายเดียว กว่า 90% ล้วนแล้วแต่เป็นมิจฉาชีพ กู้เงิน

เปิดบริษัทกับแฟนทำประตูเหล็ก อยู่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการครับ เปิดมาได้จะครบ 5 เดือนสิ้นเดือนสิงหานี้ครับ เมือก่อนผมกับแฟนทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชนครับ แต่เมื่อปลายปี 2557 บริษัทที่แฟนผมทำงานอยู่เลิกกิจการกระทันหัน ประจวบกับพี่ที่สนิท และนับถือกันมากว่า 15 ปี ก็จะเกษียรณ พี่เค้ามองว่าธุรกิจผลิตประตูเหล็กที่เจ้านายแฟนผมทำเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ อีกทั้งแฟนผมดูแลทุกอย่างแทนเจ้านายมาตลอดเกือบ 10 ปี งานในออฟฟิศทั้งหมดรวมถึงการเขียนแบบสั่งผลิตด้วย พี่ที่สนิทกันนับถือเป็นพี่น้องกันมานาน อยากมีกิจการของตัวเองหลังเกษียรณ ก็เลยมาปรึกษาหารือกันที่จะทำธุรกิจด้านผลิตประตูเหล็ก ทั้งผม และแฟนต่างมีความเห็นตรงกันว่า

สองครอบครัวเราก็สนิทสนม และนับถือกันมานาน กินอยู่ด้วยกันไปทำกิจกรรมจิตอาสากันมาตลอด ถ้าจะร่วมกันเปิดบริษัท ก็น่าจะไปได้ดีไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะผม และแฟนก็นับถือพี่เค้าเหมือนพี่ชาย และพี่สาว อีกอย่างพี่ผู้ชายก็เป็นวิศวกร เป็นฝ่ายดูแลคุณภาพในบริษัทผลิตรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อหนึ่ง พี่ผู้หญิงก็จบปริญญาโท และเป็น ผจก.ฝ่ายจัดซื้อในบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง พี่ผู้ชายก็บอกว่าเค้าจะมาดูแลเรื่องการผลิต และจะหาลูกค้ารายใหม่ๆ หรืองานเสริมอื่นๆ นอกเหนือจากการผลิตประตูเหล็ก ก็ตกลงกันร่วมหุ้นกัน โดยที่ทางฝ่ายพี่ผู้ชายกับแฟนเค้า จะหาเงินก้อนแรกมาลงทุน ส่วนผม และแฟนจะลงแรงไปก่อนแล้วจะหาเงินทุนมาเวียนต่อไป

เนื่องจากแฟนผมมีลูกน้องที่เป็นช่างฝ่ายผลิตจากบริษัทมาช่วยงานด้วยมีฐานลูกค้าเดิม รวมทั้งเขียนแบบผลิตติดต่อลูกค้าเองได้ทั้งหมด ส่วนผมตอนนั้นยังทำงานเป็นลูกค้าในบริษัทแห่งหนึ่งอยู่ยังไม่ได้ออกมาช่วย ในบริษัทที่เปิดใหม่ก็จะมีพี่ผู้ชายกับแฟนผมที่ต้องดูแลในช่วงต้นก่อน พอเปิดบริษัท พี่ผู้ชายเค้าก็เกษียรณพอดี แต่…กลับไม่เข้ามาช่วยอะไรในบริษัทเลย เค้ากลับบอกแฟนเค้าว่าเค้าทำงานมา 25 ปียังไม่ได้พักผ่อนเลย เค้าขอพักก่อน หลายเดือนผ่านไปผมเห็นว่าแฟนผมทั้งทำงานในออฟฟิศ ทั้งวิ่งงานข้างนอก ดังนั้นผมจึงตัดสินใจออกจากงานมาช่วยแฟนผมวิ่งงานข้างนอก

และเป็นลูกมือช่างในวันที่ไม่ต้องวิ่งงาน หลายเดือนผ่านไปอีก พี่ผู้ชายก็ยังไม่เข้ามาช่วยทำอะไรเลย จึงได้สอบถามไปที่พี่ผู้หญิงจึงได้ความว่าพี่ผู้ชายเค้าจะไม่ทำตรงนี้แล้วนะ พวกเราทำกันเองต่อนะไหวไหม สรุปก็คือเราสู้กันต่อ ตั้ง แต่เปิดบริษัทมาพี่ผู้ชาย และพี่ผู้หญิง ไม่ได้เข้ามาช่วยอะไรเลยในบริษัท เข้ามาเซ็นต์เอกสารให้ แค่บางครั้งเท่านั้น ซึ่งก็นานๆ ที เนื่องจากพี่ผู้หญิงกับแฟนผมทีอำนาจลงนามร่วมกัน แต่ได้เงินค่าบริหารทุกเดือนเหมือนกัน เพราะผมกับแฟนต่างเห็นเป็นพี่ที่เคารพนับถือจึงไม่คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าเงินลงทุนก้อนแรก 5 แสน

เป็นเงินที่พี่เค้าหามา แต่หลังจากนั้นผมกับแฟนก็ช่วยกันหาเงินช่วยกันกู้เงินมาเป็นทุนหมุนเวียนในบริษัท จนกระทั้ง 1 ปีผ่านไป ปลายปี 2558 ก็ได้พูดคุยกับพี่ผู้หญิง และพี่ผู้ชาย ตกลงพี่จะเอาอย่างไร ถ้าทำต่อต้องเข้ามาช่วยกันให้บริษัทเจริญรุ่งเรือง ช่วยกันหางาน ร่วมแรงร่วมใจกัน ความรู้ และประสบการณ์ของพี่ๆ มีมากกว่าเรา เรื่องบางเรื่องเราก็ต้องการคำแนะนำ และความช่วยเหลือจากพี่ๆ ถ้าไม่ทำต่อพี่ขายหุ้นคืนให้เรา เพราะที่ผ่านมาเกือบ 1 ปี พี่ไม่ได้เข้ามาช่วยทำอะไรเลย แล้วพี่เค้าก็ตอบมาว่าหลังปีใหม่จะเข้ามาช่วย พอต้นปี 2559 ทางฝ่ายพี่เค้าก็เงียบ ผมกับแฟนเลยถามกลับไปใหม่อีกครั้ง คราวนี้สิ่งที่เราได้ยินกลับมาคือ ผมกับแฟนไปกดดันเค้าทำไม

จึงเป็นเหตุให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต พี่ผู้ชายพาลูกชายที่เป็นทหารมาขู่ให้เปิดบริษํทเดี๋ยวนั้นเลย แล้วหาว่าผมกับแฟนฉ้อโกง ยักยอกเงินออกจากบริษัท ทั้งที่ตลอดเวลาพี่ผู้หญิงก็รับรู้สถานะการณ์ของบริษัทมา โดยตลอดว่า เงินทุนหมุนเวียนหลังจากเงินก้อนแรกเป็นของผมกับแฟนที่หามาหมุน เค้าไม่ได้มีส่วนมารับผิดชอบอะไรเลย แฟนผมจะรายงานทุกอย่างให้พี่ผู้หญิ่งทราบตลอด เพราะพี่ผู้หญิงเป็นผู้มีอำนาจลงนามร่วมกับแฟนผม ไม่ว่าจะลงนามในเช็ค หรืออื่นๆ ต้องลงร่วมกันสองคน อยู่ๆ พี่ผู้ชายก็มากล่าวหา และมาไล่ให้ออกจากบริษัท และให้ปิดบริษัท โดยไม่มีเหตุผล เหตุผล แต่ว่าตัวเองจะไม่ทำแล้ว

ในเมื่อจะไม่ทำก็ต้องปิดบริษัทใหม่ อยากทำต่อก็ไปเปิดบริษัทใหม่เอง อย่ามาใช้ชื่อบริษัทนี้ทำต่อ ซึ่งทางผม และแฟนต่างก็งง ไม่คิดว่าเค้าเป็นผู้ใหญ่ที่เรานับถือเค้ากลับมาทำแบบนี้ เราก็เสนอไปแล้วว่าพี่ไม่ทำก็ไม่เป็นไร ขายหุ้นคืนให้เรา เราก็ไม่มีเงินก้อนจ่ายหรอกนะ แต่เราจะทยอยจ่ายให้จนครบพร้อมดอกเบี้ย แต่เค้าไม่ยอมเค้าให้ปิดบริษัททันที และวันนั้นเลยวันที่เค้าเข้ามา เค้าบอกถ้าจะทำต่อให้เอาเงินสดมาคืนให้เค้าทั้งหมดตอนนั้นเลย ถ้าไม่มีก็ปิดเลย เราก็โอเคในเมื่ออยากปิดก็ได้ แต่เราขอเคลียร์งานที่ค้างส่งลูกค้าให้เสร็จก่อน เค้าก็ไม่ยอม

ผมกับแฟนจึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจ ระหว่างนั้นเราก็ส่งไลน์คุยกับฝ่ายโน้นตลอดว่าเราขอเคลียร์งานก่อน 1 อาทิตย์ผ่านไป ผมกับคนงานไปส่งงาน และไปติดตั้งที่หน้างานปิด รง.ไว้ ส่วนแฟนผมขนเอกสารไปทำงานอยู่ที่บ้านตั้ง แต่เกิดเรื่องแล้ว พอกลับมาตอนเย็นเค้าเอากุญแจมาล็อคทับกุญแจที่ผมล็อคไว้ ทางเราเลยไปแจ้งความไว้ และทำการตัดกุญแจตัวนั้นออก ยิ่งทำให้ทางโน้นเค้าไม่พอใจหนักเข้า เพราะวันนั้นเค้าจะมาขนเอาเครื่องไม้เครื่องมือ แต่ทางเราเปลี่ยนกุญแจ เพราะเราคาดการณ์ไว้แล้วว่าเค้าคงต้องทำอะไรสักอย่างที่จะไม่ให้เราได้ทำงานต่อให้เสร็จแน่นอน ก็เป็นไปตามที่คาด แต่เราทำทุกอย่างถูกต้องตามกฏหมายรวมถึงการที่เค้ากล่าวหาว่าฉ้อโกงยักยอก ก็สามารถตรวจสอบรายรับรายจ่ายได้มีเอกสารครบ ซึ่งทางเราก็ได้ทำเอกสารส่งให้เค้าไปด้วยแล้วชุดหนึ่ง อีกทั้งเราก็ได้ปรึกษาทนาย และเตรียมทนายไว้แล้ว เพราะเราถือว่าเราไม่ได้รับความยุติธรรม สุดท้ายเค้าก็มาลักขนเอาของจากโรงงานทั้งหมดเครื่องมือ โต๊ะเก้าอี้สำนักงาน คนข้าง รง.ถ่ายรูปตอนเค้ามาขนของ และส่งมาไลน์มาให้ เราจึงเราหลักฐานนั้นไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ตำรวจยังทักเลยว่ายอมเค้าได้ไง บอกไม่อยากสู้กับคนพาล สู้ไปก็ไม่ต้องทำมาหากินต่อพอดี ที่แจ้งความไว้ เพื่อความถูกต้อง และความปลอดภัยในตัวเอง ตำรวจบอกว่าถ้าเค้ามาข่มขู่อีก หรือมีอะไรก็ให้โทรแจ้งได้เลย ไม่ต้องทำอะไรเดี๋ยวตำรวจจะจัดการให้เอง หลังจากนั้นเค้าก็พยายามไลน์จะมาเรื่องจะมาเอาเงินลงทุนก้อนแรกของเค้าจากเราอีก เค้าบอกให้เราทำเป็นลายลักษณ์อักษรยอมรับเป็นหนี้ก้อนนั้น เราก็เลยไลน์ตอบกลับไปว่า แล้วเงินที่เรากู้เอากดบัตรมาหมุนเวียนในบริษัทล่ะ ทำไมไม่พูดถึง เงินก็ไม่ใช่น้อยๆ

เราสองคนกู้มาหมุนในบริษัทรวมๆ แล้ว 2-3 ล้านด้วยซ้ำ ทำไมไม่เอาหนี้สินมารวมกันแล้วหารคนละครึ่งล่ะ จะให้เรารับผิดชอบเงินที่พี่เอามาลงทุน แค่ก้อนแรก มันไม่เอาเปรียบเราเกินไปหน่อยเหรอ เครื่องมือพี่ก็มาขนไปหมดตอนนี้เราก็ตกงานไม่มีงานทำ พี่ยังมีงานทำอยู่ พี่ผู้ชายก็มีเงินบำนาญข้าราชกิน พี่จะมาเอาอะไรกับพวกเราอีก เค้าบอกวาไม่เกี่ยวกัน คืนเครื่องมือมาแล้วคิดว่าจะจบเหรอตอบมาเดี๋ยวนี้ว่าจะรับผิดชอบไหม หรือจะให้ไปเอาคำตอบที่บ้าน ผมกับแฟนก็ไม่รู้จะพูดอะไรนี่เหรอคนที่เราเคารพนับถือมาแสนนาน ต่อมาพี่ผู้ชายกับพี่ผู้หญิงรวมทั้งลูกชายเค้าที่เป็นทหาร มาที่บ้านเราด้วย

มี แต่พี่ผู้หญิงลงมาถามว่าเรื่องปิดบริษัทไปถึงไหนแล้วปิดเรียบร้อย หรือยัง แฟนผมก็เลยบอกเค้าว่าการปิดบริษัทไม่ใช่จะปิดวันนี้เดี๋ยวนี้ได้เลย ทุกอย่างต้องมีค่าใช้จ่าย และตอนนี้เราก็ไม่มีรายได้อะไรเลย พี่มาทำแบบนี้กับเราแล้วพี่จะต้องการอะไรจากเราอีก ขนาดรถมอร์ไซค์พี่ยังเอาคืนไปทั้งที่เราผ่อน iphone ให้ลูกสาวเค้าแทนค่ามอร์ไซค์ไปแล้ว ค่าโทรศัพท์แพงกว่าค่ามอร์ไซค์ที่เค้าซื้อมือสองมาด้วยซ้ำ พี่ผู้หญิงว่าก็นั่นสิแล้วเอาไปจอดไว้ที่ รง.ทำไมล่ะ เราก็ได้ แต่พูดว่า เออเนาะ ก็พี่ผู้ชายยังไม่โอนเป็นชื่อเรานี่ในเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ คิดเหรอว่าเค้าจะโอนให้ ถ้าเค้าแจ้งความจับเราลักทรัพย์เค้าล่ะ เราก็ซวยน่ะสิ

ถ้าคนมีสำนึกเค้าคงไม่เอาไปหรอก แม้กระทั้งหิ้งพระพุทธิที่เรากราบไหว้บูชาที่ รง. ยังรื้อเอาไปหมด เอาไปทำไมในเมื่อครอบครัวพี่นับถือคริสต์ เค้าเงียบไม่พูดอะไร ไหนจะลูกน้องที่เราต้องรับผิดชอบเค้า ดีเท่าไหร่ที่เค้าไม่ฟ้องเรา ปิดบริษัทไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า มันผิดกฎหมายอยู่แล้ว เราไม่มีเงินไปปิดหรอก เค้าก็บอกเค้าก็ไม่มี แฟนผมเลยบอกว่าไม่มีก็ปล่อยแบบนั้นไปก่อน มีเมื่อไหร่ค่อยไปเคลียร์ไปปิดทีหลัง แล้วเค้าก็พากันกลับ และไม่มีการติดต่อกันอีกเลย เค้าก็ออกจากไลน์ไป เพราะเบอร์โทรศัพท์ทั้งสองคนนั้นจดทะเบียนในนามแฟนผม เค้าก็ไม่จ่ายค่าโทรศัพท์เลย สุดท้ายเราก็เป็นหนี้ค่าโทรศัพท์ที่เค้าใช้เพิ่มอีก

จนกระทั้งเราได้ย้ายมาอยู่ตึกที่เช่าใหม่ เพื่อทำเป็นออฟฟิศใหม่ และให้ลูกน้องทำงาน ซึ่งเราเริ่มกันจากติดลบต้องมาซื้อเครื่องมือใหม่ทั้งหมด ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากญาติพี่น้อง และ เพื่อนสนิท แต่เนื่องจากการดำเนินธุรกิจต้องมีเงินทุนสำรองไว้หมุนเวียน ทำให้เราติดขัดดำเนินงานได้ไม่สะดวก อีกทั้งหนี้สินเรามีหนี้สินในระบบที่เอามาหมุนเวียนเมื่อครั้งบริษัทเดิม ซึ่งเต็มวงเงิน และจ่ายล่าช้า และตอนนี้รอประนอมหนี้อย่างเดียว จึงได้หาแหล่งเงินทุนนอกระบบ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน งานประตูที่ทำลูกค้าจะจ่ายมัดจำ 50% อยู่แล้ว แต่นั้นไม่เพียงพอ เพราะกว่าจะทำงานเสร็จ และส่งของลูกค้ากว่าจะเก็บเงินจากลูกค้า เราต้องมีเงินสำรองสำหรับค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย ซึ่งถ้าหากมีเงินทุนไว้หมุนเวียน 2-3 แสน ธุรกิจก็จะสามารถดำเนินได้ ดอกเบี้ย 5%

หรือแม้กระทั้ง 10% เราก็ยังพอจะสู้ไหวเพราะทุกวันนี้ถ้าหมุนไม่ทันเราก็ต้องจำใจเอาดอกร้อยละ 20% มาหมุนก่อน ซึ่งมันก็หนักมากสำหรับเราเพราะบางเจ้างให้เรา แค่ 15 วัน ซึ่งถ้าเทียบแล้ว 40% ต่อเดือนเลยทีเดียว ซึ่งมันไม่ไหว ทำงานไปไม่ได้อะไรเลย ทำงานใช้หนี้อย่างเดียว บางทีก็ท้อ แต่เมื่อนึกถึงญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท หรือแม้กระทั้งลูกน้องที่ยังคงอยู่กับเรา ก็เลยบอกตัวเองว่าท้อไม่ได้ ถอยไม่ได้สู้ต่ออย่างเดียว โดยเฉพาะลูกน้องเค้ายังมาทนลำบากกับเราทั้งที่ทำงานกับเรากว่าเค้าจะได้เงินก็ต้องส่งงานรับเช็คได้แล้วค่อยแบ่งจ่ายกันไป ถ้าเค้าไปทำงานบริษัทอื่นเค้าก็ได้เงินเดือนสบายๆ อยู่แล้ว

ไม่ต้องมารอแบบนี้ เลยอยากหาแห่งเงินทุนระยะยาวที่สามารถส่งดอกรายเดือนได้ หรือแม้กระทั้งผ่อนส่งต้นได้ด้วยจะทำให้เรามีแรงสู้ และมีแรงทำงานได้ต่อไป ขอบคุณที่ได้ให้กระผมได้เล่าเรื่องราวชีวิตของตัวกระผม 

!! หากคุณเป็นนายทุน ต้องการปล่อยเงินกู้ หากสนใจผู้กู้เงินในกระทู้นี้ กรุณาติดต่อ Lineid : @mpe8992s โดยตรงเท่านั้น !!
ผู้ดูแลระบบ กรกฎาคม 9, 2020 12:40 1,560 views ,

sep-10552 พูดว่า:

ขอกู้เงินจำนวน 120,000 บาท เพื่อจะไปจ่ายค่าบ้านที่ค้างใว้กลับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งดิฉันกู้มาสร้างบ้านได้ ประมาณ 2 ปี แล้ว ซึ่งตอนนี้เรื่องมันตกไปถึงบังคับ คดี จะทำการขายทอดตลาด บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังแรกของดิฉันถ้าบ้านโดนขายแล้วดิฉันก็ไม่มี ที่อยู่อาศัย ที่ดิฉันขาดส่งค่าบ้านก็เนื่องมาจาก ดิฉันตกงานอยู่ประมาณ 6 เดือน แต่ตอนนี้ได้งานทำใหม่แล้ว เป็น พนักงานตรวจสอบคุณภาพอยู่ที่โรงสีแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด เงินเดือนตอนนี้ 13,000 บาท ภาระหนี้สินบัตรเครดิตมีอยู่ ทั้งหมด ประมาณ 50,000 บาท สาเหตุที่ดิฉันมีหนี้บัตรเครดิต เพราะตอนนั้นสมัครง่าย สมัครอะไรก็ผ่านหมด แต่ตอนนี้ลำบากมากค่ะ จะกันไปหยิบคืนใครก็ลำบาก เงินเดือนก็ใช้เดือนชนเดือนค่ะ ก็เลยจะขอกู้ยืมเงินจากนายหน้าผานเว็บไซน์นี้ค่ะ เพราะถ้าดิฉันชำระรายการค้างทั้งหมดกู้ทำเรื่องกู้ยืมใหม่ได้อีกครั้งค่ะ ตอนนี้เตรียมเอกสารใว้หมดแล้วค่ะ ดิฉันเพิ่งเข้าไปปรึกษาแบงค์มาค่ะ ขอความกรุณาจากนายหน้าค่ะ ดิฉันไม่อยากเสียบ้านไปค่ะ ในส่วนของดอกเบี้ย ดิฉันสามารถผ่อนคืนได้ ร้อยละ 3% ต่อเดือนค่ะ สัญญา 2 ปี

sep-6095 พูดว่า:

สวัสดีค่ะ อยุ อ.เภอ จัตุรัส จ.ชัยภูมิ มีความต้องการขอกู้เงิน จากนายทุนทุกๆ คนค่ะ เนื่องจากมีความจำเปน และเดือดร้อนมาก ในตอนนี้ เพราะดิฉันเลิกกับแฟนได้ปีกว่าแล้วค่ะ แต่สาเหตุคือ ฉันมีลูกคนนึง แต่พ่อของเขาตั้งแต่เลิกกันไปเขาไม่เคยช่วยค่าเลี้ยงดูสัก บาท ทั้งๆ หมู่บ้านก็ยุหมู่บ้านเดียวกัน แม่เขาก็เปนคนมีเงินมาก แต่ไม่เคยยื่นช่วยค่านมเลยสัก บาท พอลูกยิ่งโตไหนจะค่านม ไหนจะเก็บไว้ให้ลูกเข้าโรงเรียน แต่เงินก็ไม่มีพอเลย ฉันก็เลยต้องฝากลูกให้แม้เลี้ยงไว้ แล้วก้อต้องออกมาหางานทำ แต่ที่ต้องการกู้เงินคือ. ฉันมีทุนไม่พอที่จะตั้งตัวยุให้ถึงเงินออกได้ เพราะแม่ของฉันก็ไม่มีเงินเลย ฉันก็พอจะมีเงินเก็บยุบ้าง แต่ก็เอาให้แม่ไว้ซื้อของให้ลูกเป็นบางส่วน แล้วก็นำมาจ่ายค่ามัดจำค่าเช่าห้องหมด จนตอนนี้เงินที่ติดตัวมียังไม่ถึง500เลยค่ะ เดือนร้อนจิงๆ . ก็เลยอยากจะขอกู้เงินจากนายทุนสัก10000 บาท ค่ะ พอที่จะตั้งตัวได้บ้าง แต่ขอดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ5นะค่ะ ขอสัญญาปีนึง ถ้าได้มาแล้ว ฉันสัญญาว่าจะรีบเก็บเงินส่งคืนให้เร็วที่สุดค่ะ เพราะฉันก็ไม่เคยกู้เงินใครเลย แต่นี้คือเดือดร้อนมากค่ะ สงสารลูกก็สงสาร แต่ก็ต้องสู้จนวินาทีสุดท้าย เพื่อเขาค่ะ