ได้เพียงแค่บรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้เพียงเท่านี้ หวังเพียงอย่างยิ่งว่าจะได้รับความอนุเคราะห์

เป็นคนจังหวัดตรัง ปัจจุบันเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ที่ตรัง เงินเดือนอยู่ที่ 10450 บาท หักค่าประกันสังคมแล้วนะคะ ต้องเท้าความก่อนเลยคะ หลังจากเรียนจบก็ขึ้นไปทำงานที่ จ.ภูเก็ต ได้รับเงินเดือนอยู่ที่ เดือนละ 18,000 บาท ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลยคะ เพราะบริษัทมีสวัสดิการบ้านพักพนักงานให้ มีเหลือเก็บและส่งให้พ่อกับแม่ทุกเดือน ที่บ้านพ่อมีภาระหนี้สินติดแบ็คลิศ จึงจะต้องจำเป็นขายรถกระบะ คันเก่า เพื่อใช้หนี้ หลังจากนั้นก็มีความยากลำบากในการใช้งาน เวลาเข้าสวน ต้องใช้รถกระบะ

ดิฉันเลยอาสาจะออกรถให้ โดยใช้ชื่อเป็นเอกสารของชั้น แต่เงินในการดาวน์รถ พ่อเป็นคนจัดการหามา หลังจากนั้น การผ่อนเป็นไปด้วยดี แต่จากการที่ทำงานที่ภูเก็ต ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน คือเข้างาน 8.00 น. แต่เวลาออกไม่แน่นอน แรกๆ ตอนทำงานใหม่ๆ เข้า 8.00 น. ออกจาก 17.00 น. ตามปกติทั่วไป แต่พออายุงานมากขึ้น ภาระหน้าที่เริ่มมากขึ้น ไม่มีเวลาพักผ่อน ร่างกายเริ่มทรุดหนัก เนื่องจากที่บริษัท มีโรงงานผลิตแปรรูปน้ำยาง พารา อาการเริ่มต้นคือ มีผื่นขึ้นที่หน้า ตัวร้อน เมื่อไปหาหมอที่โรงพยาบาล

กลับได้รับยาแก้แพ้ และยาลดไข้กลับมา แต่ก้อไม่ดีขึ้น เลยตัดสินใจโทรกลับมาบอกที่บ้าน เพื่อจะกลับมาหาหมอ มาถึงหาหมอคลินิก หมอบอกว่าเป็นเชื้อรา ให้เอายาไปทาและกิน 3 วันให้กลับมาอีกครั้ง กลับมาถึงบ้านทายา และกิน แต่พอหมดช่วงยานั้นออกฤทธิ์ ก้อมีอาการเดิมกลับมาอีก กลับไปหาหมอที่คลินิกเดิม หมอบอกว่าเชื้อรามันลาม ไปเยอะแล้ว แนะนำให้ไปหาหมอที่ศูนย์โรคผิวหนังภาคใต้แทน แต่ตอนนั้นตรงกับวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ต้องรอให้ถึงวันจันทร์ ช่วงระยะเวลานั้น

ไม่สามารถ ออกไปไหนได้ โดนแดด หรือ ออกเหงื่อ จะแสบไปหมด กลายเป็นว่าลางานยาวเลยคะ วันจันทร์ ไปหาหมอที่ศูนย์โรคผิวหนังภาคใต้ ปรากฏว่าเป็นเชื้อรา ได้ใบรับรองแพทย์กลับมา แต่ต้องกินยาและรักษาต่อเนื่อง แต่พอกลับไปทำงาน เขากลับบอกว่า เราลาเกินกำหนด ทั้งที่โทรบอก ผจก.และหัวหน้าตลอด เหมือนกับโดนให้ไล่ออกทางอ้อม หลังจากนั้นก้อกลับมาใช้ชีวิตอยู่บ้าน 3 เดือน กว่าจะได้งานใหม่ แต่เงินเดือนน้อยกว่าที่เก่า ทำมาได้ปีกว่า

ที่บ้านประสบปัญหาเศรษฐกิจ ราคายางตกต่ำ ฝนตกบ่อย เงินที่เก็บออมก้อเริ่มหมด จากการที่พ่อผ่อนรถทุกๆเดือน กลายเป็นว่าผ่อนบ้างไม่ได้ผ่อนบ้าง จนกระทั่งไม่ได้ผ่อนเข้าไป 3 เดือน มีเจ้าหน้าที่โทรมาเพื่อจะยึดรถ จึงขอปรับโครงสร้างนี้ จากเดือนละ 7943 เหลือ 5228 ซึ่งเป็นเงินเดือนครึ่งหนึ่ง ของยอดเงินเดือนและ เป็นหนี้บัตรเครดิต อีก 34,000 บาท ทำเอาไว้ตั้งแต่ที่ทำงานเก่าคิดว่าจะไม่ได้ใช้ เลยไปยืมเงินในบัตรของแฟนมาปิดก่อนเพราะโดนศาลฟ้อง

ดิฉันเลยอยากจะกู้เงิน 50,000 บาท ซึ่งมีความสามารถในการชำระร้อยละ 5 ต่อเดือน จึงในการพิจารณาในการช่วยเหลือ ในครั้งนี้ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ