มีปัญหาได้ทำการค้ำประกันรถให้เพื่อนร่วมงาน

อาศัยในจังหวัดลำพูน ราคา 300000บาทและเพื่อนได้ส่งไปคงค้าง 200000บาท แล้วเพื่อนร่วมงานก็ย้ายไปทำงานต่างจังหวัดต่อมาเจ้าหน้าที่ไฟแนนท์ได้ติดต่อมาว่า รถที่ค้ำขาดส่ง 6 เดือน เดือนละ 4000 บาท เป็นเงิน 24000 บาท ต่อมาได้โทรติดต่อเพื่อน และไม่สามรถติดต่อได้ จึงต้องรับผิดชอบเงินจำนวนนั้นโดยการกู้ยืมเงินกองทุนหมู่บ้านเป็นจำนวน 30000บาท เพื่อชำนะค่างวดที่ค้างจ่ายพร้อมดอกเบี้ย เป็นเงิน 28000 บาท โดยไฟแนนท์แจ้งว่าจะติดตามเพื่อนเอง ต่อมา ปลายปี 57 ได้มีหมายศาลแจ้งให้ไปขึ้นศาล จากคดีที่ได้ค้ำประกันรถ หลังจากไปศาลๆด้ตัดสินให้ผมชำระเงินทั้งหมดแต่ได้ทำการไกล่เกลี่ย โดยให้ชำระ เดือนละ 4000 บาท36 งวด เนื่องจากต้องแบกรับภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นจำนวน 3000 บาทจากกองทุนหมู่บ้านและ 4000 บาทค่างวดรถ และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เงินเดือนจากงานประจำ12000 บาท และเงินจากร้านคาราโอเกะ ที่ไม่แน่นอนบางวันก็ได้กำไรบางวันก็ไม่มีลูกค้าเนื่องจากเศรฐกิจำไม่ดี บางเดือนจึงไม่ได้ส่งค่างวดรถ จึงถูกไฟแนนท์ฟ้องเป็นครั้งที่สอง และตัดสินให้ชำระเงินที่ค้างทั้งหมด จำนวน 120000และค่าทนาย 3000บาท ไม่งั้นจะต้องติดคุก จึงได้ทำการกู้เงินนอกระบบร้อยละ 20 โดยได้กู้เงิน 50000บาท เพื่อชำระให้ไฟแนนท์ โดยเงินที่กู้นอกระบบ 50000 บาท ได้รับเงิน แค่ 40000บาทหักดอกเบี้ย 10000 บาทล่วงหน้าและจ่ายดอกเบี้ยวันละ 1000บาททุกวันจนกว่าจะชดใช้เงินต้นจนหมด ตอนนี้จึงลำบากมาก เพราะต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 1000 บาท ค่าอาหาร น้ำมัน ค่าใช้จ่ายของแม่ที่ป่วยเป็นเบาหวาน ค่าน้ำค่าไฟ ปัจจุบันรายได้หลักมาจากเงินเดือน เดือนละ12000 ยาทและร้านคาราโอเกะ กำไรวันละประมาณ 500บาท แต่ก็ไม่พอกับรายจ่าย จึงขอความกรุณากู้ยืมเงินจำนวน 60000-100000บาทเพื่อทำการปิดยอดเงินกู้นอกระบบ โดยจ่ายดอกเบี้ยให้ได้ร้อยละ5 ต่อเดือนโดยชำระทุกสิ้นเดือน ผมได้ถ่ายรูปร้านคาราโอเกะ ทะเบียนพานิชย์เพื่อประกอปการตัดสินใจ แล้วหวังว่าจะได้รับความเมตตาช่วยเหลือผม เพราะตอนนี้หันไปพึ่งใครไม่ได้บางวันไม่มีเงินจ่ายค่าดอกต้องหลบๆช่อนๆ บางทีก็โดนพวกทวงหนี้ด่าสารพัด เคยคิดสั้นแต่คิดว่าชีวิตต้องมีทางออกคิดถึงแม่ก่อนจึงมีกำลังใจ และหวังว่าท่านจะเมตตาช่วยเหลือจะเป็นพระคุณมากกับผมและครอบครัวขอแสดงความนับถือ