ไม่ว่าคุณจะให้กู้หรือไม่ ยังไงก็ขอบพระคุณมากนะค่ะ ขอให้ร่ำรวย สุขภาพแข็งแรงและมีความสุขตลอดไปนะค่ะ

เงินด่วน*** เว็บไซต์ Siamloaning.com เป็นเพียงเว็บประกาศแจ้งเตือนภัยเงินด่วนและช่วยคุณหาเงินกู้เท่านั้น ไม่มีการเก็บเงินค่าตามเอกสาร! ค่าเดินทาง! ค่าดอกเบี้ย! ค่าธรรมเนียม! หรือให้คุณโอนเงินก่อนแต่อย่างใด โปรดระวังมิจฉาชีพแจ้งว่าเป็นทีมงานของเว็บไซต์เราด้วยนะครับ กรุณาตั้งสติและอย่าให้เบอร์ใครง่ายๆ ถ้าคุณใจไม่แข็งพอ ***

ที่สำคัญที่สุด!! เราไม่พบนายทุนนอกระบบตัวจริงในอินเทอร์เน็ต แม้แต่รายเดียว กว่า 90% ล้วนแล้วแต่เป็นมิจฉาชีพ ถ้ามีนายทุนนอกระบบในอินเทอร์เน็ตที่สามารถปล่อยเงินกู้ได้จริง สยามโลนนิ่งจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทุกท่านทราบโดยทันทีสินเชื่อส่วนบุคคล
เงินกู้ *** หาเงินกู้ไม่ได้ ติดต่อให้เราช่วยได้ที่นี้ *** >>> แอด Lineid : @mpe8992s (มี @ ข้างหน้าด้วย) <<< หรือ >>> คลิกที่นี่เพื่อแอดไลน์ <<< บริการนี้เป็นบริการช่วยหานายทุนให้กับลูกค้า ไม่ใช่เป็นการปล่อยสินเชื่อ และไม่ได้บังคับให้ทำตาม ย้ำอีกครั้งว่าทางเว็บไซต์ไม่ได้เป็นนายทุนปล่อยสินเชื่อด้วยตัวเอง และเราไม่เคยพบนายทุนนอกระบบในอินเทอร์เน็ตที่ปล่อยเงินได้จริง แม้แต่รายเดียว กว่า 90% ล้วนแล้วแต่เป็นมิจฉาชีพ กู้เงิน

กู้เงินธนาคารไม่เช็คแบล็คลิส สุราษฎร์ธานี สวัสดีค่ะ อายุ 26 ปี อาศัยอยู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดิฉันเป็นลูกคนโต มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ดิฉันอายุได้ 12ปี โดยที่ดิฉันเลือกอยู่กับแม่ค่ะแม่พาดิฉันออกมาไม่มีอะไรติดตัวมาเลย ดิฉันจึงลำบากตั้งแต่ยังเด็กๆ พอดิฉันอายุได้ 13 ปี แม่ก็มีสามีใหม่โดยที่ดิฉันไม่เต็มใจ แต่ก็ขัดใจแม่ไม่ได้ จนแม่มีลูกใหม่อีก 2 คน ซึ่งทำให้ครอบครัวเราลำบากขึ้นไปอีก แต่ดิฉันก็ดิ้นรนเรียนจนจบม.6 แต่ก็ไม่ได้เรียนต่ออีกเพราะแม่ไม่มีเงินส่งฉันเรียนต่อมหาลัย และยังต้องส่งน้อง 2 คนเรียนอีก

ดิฉันจึงต้องรับจ้างกรีดยาง เก็บเศษยางจ้าง เพื่อหารายได้เรื่อยมา ดิฉันมีความเก็บกดอย่างหนึ่ง ตลอดเวลาที่แม่มีสามีใหม่ ดิฉันถูกลวนลามตลอดโดยที่แม่ไม่รู้ ดิฉันร้องไห้คนเดียวมาตลอด เพราะไม่สามารถบอกใครได้ จนอายุได้ 21ปีดิฉันก็มีแฟน เป็นคนแถวบ้านดิฉันเอง โดยมีน้าสาวเป็นคนติดต่อให้ ดิฉันจึงเล่าที่พ่อเลี้ยงลวนลามให้ฟังแฟนฟัง แฟนดิฉันจึงแนะนำให้ดิฉันไปเรียนต่อเพื่อหนีพ่อเลี้ยงและได้มีความรู้และมีงานทงดงงิฉันจึงตัดสินใจไปเรียนที่สุราษฎร์การบริบาล

เรียนระยะสั้นเพื่อได้ทำงานเร็วๆ และประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย เพราะเงินที่ดิฉันเก็บมีไม่พอที่จะเรียนปริญญา แม่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่ก็ให้ไปเรียนจนดิฉันเรียนจบก็ทำงานในเมืองเลย ได้งานที่ คลินิกรักษาตา เงินเดือน 5,000 บาท วันจันทร์ถึงวันศุกร์ทำงานตั้งแต่ 07.00น.ถึง 09.00 น. และตอนเย็นเวลา 16.00ถึง 20.30 น. วันเสาร์ทำตั้งแต่ 08.30 น.ถึง20.30 น. วันอาทิตย์ทำตั้งแต่ 08.30 น.ถึง 13.00 น. ไม่มีวันหยุด ถ้าหยุดถูกหักเงิน ดิฉันต้องเช่าบ้านอีกเดือนละ 2,500

ค่ากินค่าน้ำมันรถก็ตกที่วันละ 100 บาท ไหนยังค่าไฟอีก ก็ไม่พอใช้ ทำได้ประมาณ 5เดือน ดิฉันจึงลาออกกลับบ้านมาได้งานทำที่โรงพยาบาลใกล้บ้านซึ่งที่โรงพยาบาลมีบ้านพักก็เลยประหยัดไปได้ระดับนึง เงินเดือน 5,700 บาท มีโอทีเวรละ 325 บาท รวมๆแล้วเดือนนึงได้เงินเดือนรวมๆแล้ว ประมาณ 9,000 บาท ถือว่าความเป็นอยู่ดีขึ้น ทำงานได้ประมาณ 1ปีแม่ไม่สบาย มีอาการปวดท้อง และตกเลือด ต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลในเมือง

  กู้เงินโอนเข้าบัญชี 2019 อายุ 26 ปี ไม่มีใครอยู่กับน้องสองคน ดิฉันจำเป็นต้องลาออกมาอยู่บ้านดูแลบ้าน เพราะหมอจะนัดดูอาการแม่บ่อย กลับมาอยู่บ้านเหตุการณ์เดิมๆก็กลับมาอีกพ่อเลี้ยงก็ลวนลามอีก ดิฉันทนไม่ไหวบอกแม่ ทะเลาะกันใหญ่ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก พอแฟนทราบจึงได้ตัดสินใจขอดิฉันแต่งงาน ค่าสินสอด 200,000บาท ดิฉันเอามาจัดงานแต่ง และที่เหลือก็ให้แม่หมด หลังแต่งงานดิฉันย้ายมาอยู่บ้านสามี มีพ่อกับแม่สองคนอยู่ด้วย ดิฉันคิดว่าคงจะไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะที่บ้านสามีเค้าก็พอมีอันจะกิน แต่ใครจะรู้วันแรกที่ไปอยู่ สามีบอกว่าต้องมีงานทำนะ ถ้าจะอยู่ด้วยกัน เพราะพี่ไม่มีเงินให้ใช้หรอก อึ้งเลยค่ะ เพราะมีคนเตือนดิฉันว่าบ้านสามีเค้าขี้เหนียวทั้งบ้าน ดิฉันก็ไม่เชือเท่าไหร่เพราะตอนเป็นแฟน

เราก็ไม่เคยจะมีปัญหาเรื่องเงินเลยพอดิฉันได้ยินสามีพูดแบบนั้น ดิฉันก็หางานทำอีก ได้งานรับจ้างกรีดยางอีก วันละ 200 บาท กลางวันก็มาช่วยสามีที่ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์เค้าเปิดร้านเอง แต่ดิฉันต้องมาหุงข้าว ทำกับข้าวให้เค้ากินตอนเทียง ค่าใช้จ่ายก็อยู่ที่ดิฉันทั้งนั้น ดิฉันถูกว่าถูด่าประจำ เพราะทำอะไรก็ไม่ถูกใจ ทำกับข้าวบางครั้งไม่ถูกใจก็ขว้างทิ้ง นานๆเข้าก็ทุบตีจนดิฉันต้องกลับบ้าน เค้าก็ไปง้อขอให้กลับบ้าน ดิฉันก็กลับมาอยู่อีกครั้ง

ครั้งนี้ดิฉันตัดใจว่าะขายน้ำมันหลอดแก้ว เพราะไหนๆสามีก็เปิดร้านซ่อมดิฉันจึงตัดสินใจกู้เงิน 5,000 บาท เพื่อมาลงทุน ดอกร้อยละ 10 ขายไปได้ 2เดือน สามีต้องปิดกิจการร้านเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ดิฉันก็พลอยจ้องเลิกไปด้วย กำไรไม่ทันได้ปลดต้นทุนเลย สุดท้ายก็ต้องจ่ายดอก 500 ทุกเดือน ดิฉันก็ไม่มีงานทำอีกเพราะเริ่มตั้งท้องด้วย แพ้ท้องเยอะไม่สามารถไปกรีดยางได้อีก ก็เลยต้องออกอีก ดีที่ตอนท้องสามีเลี้ยงดูได้เพราะดีใจที่มีลูก  เงินกู้ร้อยละ 5 ต่อเดือน 10,000 บาท

ดิฉันก็เริ่มรู้สึกดีอีกครั้ง แต่ดิฉันก็ยังต้องจ่ายดอกที่ยืมเค้ามา 500 ทุกเดือน จนดิฉันคลอดลูกสาว แต่มีปัญหาที่น้องเค้าแพ้นมวัว ต้องกินนมถั่วเหลืองค่าใช้จ่ายเยอะขึ้น ทีนี้ปัญหาก็เริ่มมีอีกครั้ง สามีเริ่มชวนทะเลาะเรื่องเงินไม่พอ สาเหตุก็เพราะดิฉันไม่รู้จักทำงาน ลำพังเลี้ยงลูกไม่เท่าไหร่ แต่มีดิฉันด้วยคงไม่ไหว ดิฉันเพิ่งคลอดได้ 2 เดือน ก็เริ่มมีปัญหาเรื่องเงินอีกครั้ง สามีเค้าให้ดิฉันใช้เดือนละ 1,000 บาท รวมทุกอย่างค่านม แพมเพอร์ส สุดท้ายดิฉันก็ต้องไปกู้เงิน10,000 มาใช้จ่ายระหว่างที่ดิฉันต้องหางานทำและลูกต้องใช้กว่าจะหางานทำได้ลูกดิฉันก็ได้ 5 เดือนพอดี

ดิฉันได้ทำงานที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เพราะเค้าเปิดรับสมัครพอดี ส่วนลูกแม่สามีอาสาเลี้ยงให้ โรงพยาบาลให้เงินเดือนเดือนละ 6,905 บาท โอทีเวรละ 420 บาท เดือนๆนึงก็ได้ประมาณ 10,000 บาท ดิฉันทำในตำแหน่งผู้ช่วยเหลือคนไข้ ต้องเข้าเวรทั้งกลางคืนกลางวัน แบ่งเป็น 3 เวร เวรเช้าทำตั้งแต่ 08.30 น.ถึง16.30 น. เวรบ่ายทำตั้งแต่เวลา 16.30 น.ถึง00.30 น.ส่วนเวรดึกทำตั้งแต่ 00.30 น.ถึง 08.30 น. บางวันก็ควบเวรทำตั้งแต่ 08.30 น.ถึง 00.30 น.เลย แล้วแต่โรงพยาบาลจัดเวรให้ ถือว่าชีวิตเริ่มดี เข้ารูปเข้ารอย

แต่เหมือนกับโดนแกล้ง ทำงานได้ประมาณ 2 เดือน เหตุการณวันนั้นจำได้ดีเดือนมินายน ปี 2558 ดิฉันอยู่เวรเช้าบ่ายควบเวรเลย ดิฉันเอารถยนต์ไปทำงานเพราะเลิกดึก สามีดิฉันอนุญาตถ้าทำงานกลางวันให้เอารถจักรยานยนต์ไป แต่ถ้ากลางคืนก็เอารถยนต์ไป พอดิฉันเลี้ยวเข้าโรงจอดรถในโรงพยาบาลเกิดเหยียบไปโดนคันเร่งเลยชนเสาเต็มๆ ด้านหน้ายุบ ดิฉันตกใจมากเพราะไม่เคยเลยที่จะขับรถประมาทแบบนี้ ที่ดิฉันกลัวไม่ใช่กลัวตายหรือกลัวตัวเองเจ็บ แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือโดนสามีด่าแน่ๆ แต่ถึงกลัวยังไงก็ตัดสินใจโทรไปบอก แล้วเป็นจริงสามีด่ามาเป็นชุดเลย

เงินด่วนนอกระบบ 20000 แต่ดิฉันก็ทนทำงานไปก่อน จนเลิกเที่ยงคืนครึ่ง สิ่งที่ดิฉันตกใจเมือไปถึงบ้าน แม่สามีดิฉันลุกขึ้นจากในห้องนอนซึ่งดิฉันคิดว่าน่าจะนอนคอยว่าเมื่อไหร่ดิฉันจะมาถึง เพราะปกติแม่เค้าจะนอนตั้งแต่หัวค่ำ พอจอดเราเท่านั้น วิ่งมาดูรถแล้วว่าดิฉันเลย ขับไปชนแบบนี้ต้องซ่อมเองนะ ดิฉันยืนน้ำตาตกเลยค่ะ ไม่คิดว่าแม่แกจะพูดแบบนี้ แทนที่จะถามเราว่าเกิดอะไรขึ้น ดิฉันเสียใจมากกลับห้องสามีก็ว่าอีกชุด ย้ำอยู่ตลอดว่าต้องซ่อมเอง ดิฉันก็ยอมรับผิดนะค่ะ

ที่ขับประมาทแต่ใครจะอยากให้เกิดขึ้นละค่ะ รุ่งเช้าดิฉันไปทำงานก็เอารถจักรยานยนต์ไปทำงาน เพราะสามีเอารถยนต์ไปเช็คว่าต้องซ่อมอะไรนัก ตอนเย็นดิฉันกลับจากทำงานสามีบอกว่ารถต้องซ่อมใช้เงินประมาณสองหมื่น ประกันชั้นสามไม่ซ่อมให้ ดิฉันเข่าอ่อนเลยค่ะ ไม่รู้จะเอาเงินจากที่ไหนมาให้ แต่ดิฉันก็บอกสามีว่ารอก่อนขอเก็บตังก่อน ตอนนี้ยังไม่มี สามีก็ไม่ว่าอะไร แต่พอผ่านไปได้สามวัน แม่สามีก็คอยว่ากระแหนะกระแหนดิฉันอยู่ตลอด ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เป็นแบบนี้

ผ่านไปประมาณอาทิตย์นึงได้ สงสัยแกคงทนไม่ไหว เพราะดิฉันก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร แกเลยด่าดิฉัน ขอโทษนะค่ะถ้าหยาบเกินไป แกด่าว่าไม่สนใจอะไรเลยนะที่เอารถไปทำฉิบหาย ทั้งๆที่ดิฉันทำงานหาเงินเกือบตาย ดิฉันขับรถทั้งน้ำตา ตัดสินไปไปกู้เงินมา 20,000บาท อีกเพื่อตัดปัญหา ดอกเบี้ยร้อยละ 10 แต่ดิฉันไม่ได้ทำสัญญาเพราะเจ้าหนี้เค้ารู้ว่าดิฉันไม่เบี้ยว เพราะส่งดอกทุกเดือนมีทยอยปลดต้นบ้างบางเดือน  สมัครกู้เงินส่วนบุคคล สร้างบ้าน

ดิฉันเอาเงินมาให้สามีที่บ้านสามีไม่ถามดิฉันสักคำว่าเอาเงินมาจากไหน ดิฉันก็ไม่สนใจจะถามอะไร คิดซะว่าเราทำผิดก็ต้องรับผิดชอบ ตั้งแต่นั้นมาะฉันก็ถูกแม่สามีพูดจากระแหนะกระแหนแต่นั้นมา บางครั้งก็ด่าเลยทีเดียว ดิฉันก็มีเถียงบ้างเป็นบางครั้ง ลูกดิฉันก็ไม่ค่อยจะเต็มใจจะเลี้ยงเหมือนเดิม จนพ่อสามีดิฉันต้องเลี้ยงเพราะแกสงสารหลานที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย แต่คนอยู่บ้านเดียวกันถูกว่าทุกวันมันก็มีขดจำกัดเหมือนกัน ดิฉันเลยไปอยู่ที่บ้านพักโรงพยาบาล โดยให้ลูกอยู่กับปู่เพราะดิฉันตองทำงานจึงฝากลูกไว้ ส่วนสามีดิฉันก็ไม่ได้เล่าอะไรเพราะถึงยังไงเค้าก็เชื่อพ่อแม่มากกว่าดิฉัน ขนาดดิฉันมาอยู่บ้านพักแม่สามีก็ยังโทรมาว่า

ดิฉันเหมือนประสาทจะกินเลย ผ่านไปประมาณ 2 เดือนได้พ่อสามีแกสงสารหลานที่พ่อแม่แยกกันอยู่ จึงตัดสินใจนัดคุยกบดิฉันและสามีดิฉันเพื่อเห็นแก่ลูก พ่อสามีแกตัดปัญหาเลยตัดใจจะสร้างบ้านให้สามีและดิฉันแยกจากแม่สามีเพื่อจะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน แต่ต้องผ่อนค่าสร้างบ้านกับพ่อสามีทุกเดือน เดือนละ 5,000 บาท ดิฉันและสามีก็ตกลง ในระหว่างที่บ้านยังไม่เสร็จก็ต้องอยู่บ้านสามีไปก่อน ซึ่งดิฉันก็ตกลงเพราะสงสารลูก ดิฉันต้องทนถูกว่าสารพัดแต่ดีสามีเข้าใจดิฉันกว่าเดิม

คอยเป็นกำลังใจให้ ใช้เวลาสร้างบ้านประมาณ 3เดือน วันสุดท้ายที่เทปูนรอบบ้าน ซึ่งตัวบ้านเสร็จหมดแล้ว แม่สามีก็ไล่ดิฉันเลยค่ะ ให้ไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่ไม่มีอะไรเลย มีแค่ที่นอนที่ดิฉันซื้อตอนแต่งงาน กับทีวีที่สามีซื้อไว้ในห้อง ดิฉันย้ายข้าวของคนเดียว โทรบอกสามีซึ่งไปทำงาน สามีไม่คิดว่าแม่ตัวเองจะทำแบบนี้ แต่ก็ไม่พูดอะไร  อยากได้เงินกู้เงินด่วนดอกเบี้ยถูก 60000 บาท ปลดหนี้ ดิฉันมีเงินในกระเป๋าอยู่ประมาณ 1,000 บาท เพราะไม่คิดว่าจะถูกไล่ออกมาเร็วกว่านี้

เลยไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ยังดีที่มีถังแก๊สเปล่าๆกับเตาแก๊สที่สามีซือตอนอยู่ร้านซ่อม ดิฉันเลยเอาไปเปลี่ยน ประมาณ 480 บาท ที่เหลือก็ไปซื้อกับข้าวกับของใช้ที่จำเป็นต้องใช้ เหลือเงินประมาณ 100 กว่าบาท ดิฉันตันหมดทุกทางเลยค่ะ บอกตรงๆ ดิฉันจึงตัดสินใจกู้เงินอีกครั้ง แต่เป็นหนี้นอกระบบ ดอกร้อยละ 10 เหมือนกันแต่คนละเจ้ากัน กู้ 20,000 เพื่อมาซื้อของภายในบ้านให้เป็นรูปเป็นร่าง โดยที่สามีจะรับผิดชอบค่าบ้านกับเรื่องลูกคนละครึ่งกับดิฉัน ส่วนดิฉันรับผิดชอบภายในบ้าน เช่น ค่ากับข้าว ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่านมลูก

ซึ่งตอนนี้ดิฉันก็อยู่บ้านหลังใหม่นี้ประมาณ 7เดือนแล้ว ซึ่งค่าใช้จ่ายเดือนชนเดือนเพราะว่าต้องใช้หนี้ ส่งแต่ดอกอย่างเดียว ซึ่งดิฉันเครียดมาก เดือนนึงดิฉันมีรายได้ประมาณ 10,000 บาท ส่งดอกเดือนละ 3,500 บาท โดยที่ต้นไม่ลดเลย ดิฉันจึงอยากวอนคนใจบุญช่วยดิฉันสักนิดเถอะค่ะ ที่ดิฉันเล่ามาทั้งหมดเป็นความสัตย์จริงทุกอย่าง ดิฉันอยากจะขอกู้สัก 60,000 บาท ปลดหนี้ทั้งหมด แล้วมีเงินตั้งตัวสักนิด ดอกแล้วแต่คุณคิดเถอะค่ะ

ดิฉันได้ทั้งนั้น ขอแค่ดิฉันได้จ่ายทุกเดือน เดือนละ 2,000 ทำสัญญากี่ปีก็ได้ ดิฉันไม่เกี่ยงค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่รับฟังดิฉัน คุณเป็นคนแรกที่รู้เรื่องดิฉันได้มากที่สุด ทำให้ดิฉันได้ปลดปล่อยสิ่งที่เก็บกดมานา แม้กระทั้งสามียังไม่รู้เลยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

!! หากคุณเป็นนายทุน ต้องการปล่อยเงินกู้ หากสนใจผู้กู้เงินในกระทู้นี้ กรุณาติดต่อ Lineid : @mpe8992s โดยตรงเท่านั้น !!
ผู้ดูแลระบบ มิถุนายน 22, 2020 06:15 214 views ,

sep-9608 พูดว่า:

เนื่องจากดิฉันมีความจำเป็นจะไปกู้เงิน เพื่อใช้หนี้ให้แม่ที่ต่างจังหวัด ดิฉันอายุ 24 ปี ทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชน เหลือขั้นตอนการยื่นเอกสารอีกหนึ่งรอบ ธนาคารบอกดิฉันว่าต้องหาเงินมาปิดบัตรเครดิต ของดิฉันให้หมดก่อน ถึงจะดำเนินการกู้เงินต่อได้ คือ ตอนนี้ดิฉันมีหนี้บัตรทั้งหมด 80,000 บาท สาเหตุที่ดิฉันเป็นหนี้บัตรเครดิต พอดิฉันเริ่มทำงานพี่ชายดิฉันก็ขอเดือนละ 1000 บาท ให้แม่อีกเดือนละ 5000 บาท ตอนนั้นดิฉันทำงานได้เดือนล่ะ 10,00 บาท จะคงเหลือใช้ต่อเดือน4000 บาท ซึ่งดิฉันต้องจ่ายค่าเช่าห้องด้วย เพราะเงินเดื ตอนนั้นก็ค่อยๆ ประคองกันมาเรื่อยๆ ใช้เดือนชนเดือนตลอด บางเดือนก็ไม่ค่อยพอใช้ ต้องหาหยิบยืมจากคนอื่น ดิฉันก็เริ่มทำบัตรกดเงินสดทีละบัตรสองบัตร เพื่อเอาเงินมาใช้ให้พอ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของดิฉัน พอมีเงินก็ใช้ไปเรื่อย จนลืมนึกอนาคตข้างหน้า พอนึกได้ก็สายไปเสียแล้ว ดิฉันจึงเป็นหนี้เป็นสินจำนวนมาก ดิฉันต้องหาเงินไปปิดหนี้บัตร เพื่อที่สามารถจะกู้เงินใช้หนี้ให้แม่ได้ ส่วนดอกเบี้ย ดิฉันสามารถผ่อนคืนได้ ร้อยละ 3% ต่อเดือน สัญญา 3ปีถ้ากู้เงินผ่านได้เร็ว ดิฉันก็จะเอาส่วนต่างที่ได้จากการกู้ มาใช้คืนทั้งต้นทั้งดอก ให้เร็วที่สุด

sep-5159 พูดว่า:

ตอนนี้ประกอบอาชีพค้าขายค่ะ ขายอาหารตามสั่ง&ขายของชำรับซักรีดเป็นหนี้รายวันอยากจะล้มหนี้รายวันค่ะ ต้องการเงินลงทุนเพิ่มด้วยทำเท่าไหร่หาได้เท่าไหร่ก็ต้องส่งรายวันอยากหานายทุน เพื่อล้มหนี้รายวันค่ะ มีหนี้ไฟเเนนซ์อีก 20,000 ตอนนี้มีภาระจ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ2,500 ค่าน้ำ-ค่าไฟ 1,500 จ่ายไฟเเนนซ์ 2,300 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก อยากให้นายทุนมาช่วยเหลือปัญหาหนี้สินทั้งหลายแล่ อยากมีชีวิตที่ไม่ต้องมีหนี้ไม่ต้องดิ้นลนอะไรมากมายทั้งที่ตัวคนเดียวปากเดียวท้องเดียวหนี้ทั้งหลายที่มีเกิดจากปัญหาของตัวเราเองมันแก้ไม่ตกไม่รุ้จะไปหาทางไหนได่เลยกู้รายวันมาจากน้อยก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อยากจะะหนีจากหนี้รายวันไม่รุ้จะทำไงคิดไม่ออกบอกไม่ถูกปัญหารุ่มเร้ามรสุ่มชีวิตมากมายไม่รุ้จะหันไปพึ่งใคร เคยลองหาในเว๊บไซร์ก็โดนหลอกตั้งไม่รุ้กี่ครั้งให้โอนเงินไปหลายต่อหบายครั้งก็ไม่จำเงินที่โอนจ่ายค่าเอกสารเขาก็ศูนย์หายไปหมดจะไปเรียกร้องอะไรจากใครก็ไม่ได้เป็น เพราะเราโง่เองโดนที่ละ1,000-2,000 ไม่จักเท่าไหร่ วอนขอนายทุนสักคนที่ใจดีพอจะมีเงินทุนให้หยิบยื่มมาล้างหนี้สิน เพื่อที่จะเป็นหนี้ทางเดียวก็หาอยู่นาน นายทุนท่านใดได้อ่านก็ขอความกรุณาด้วยนะค่ะ ขอบพระคุณค่ะ